กำเนิดกองหน้าเจ้าของฉายา "ฉลามขาว" แห่งยุค 90

                                                                       

เจอร์เก้น คลินส์มันน์


x

  


    
 เชื่อว่าใครหลายคนที่เริ่มดูบอลในช่วงยุค 90 จะต้องมีชื่อของเจ้า"ฉลามขาว"เจอร์เก้น คลินส์มันน์ อยู่ในใจแน่นอน เจอร์เก้น คลินส์มันน์ถือเป็น1ในผู้เล่นคนสำคัญที่พาเยอรมันตะวันตกคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี1990ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพและเป็นแชมป์สมัยที่3ของทีมชาติ หลังจากนั้นในปี1996ทีมชาติเยอรมันก็ได้ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ยูโร1996ที่อังกฤษ  (หลังจบฟุตบอลโลกปี1990ที่อิตาลีเยอรมันตะวันตกและเยอรมันตะวันออกได้รวมกันเป็นประเทศเยอรมันจนถึงทุกวันนี้) 

 กำเนิดเจอร์เก้น คลินส์มันน์
        เจอเก้นส์ คลินมันน์เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ.1964 ที่เมือง Göppingen เค้าเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในปี 1981 กับทีมStuttgarter Kickersในระดับชไวเทอบุนเดสลีกาของเยอรมัน แต่มาฉายแววในช่วงปี 1982-1984 และด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของเจ้าหนุ่มวัย20ปีนี้เอง จึงทำให้ทีมร่วมเมืองอย่างVFB Stuttgartทีมแชมป์ในระดับบุนเดสลีกาเยอรมันปีล่าสุดจัดการดึงมาร่วมทีมด้วยสัญญา 5 ปี ตลอด 4 ปีที่Stuttgarter Kickersเจอร์เก้น คลินส์มันน์ได้ลงสนามไป 61 นัด 22 ประตู
ฉายแสงในบุนเดสลีกา
        ในปีช่วงปี 1984-1989 ที่เจอร์เก้น คลินส์มันน์มาค้าแข้งกับทางVFB Stuttgart เจ้าตัวก็ยังโชว์ฟอร์มได้ดีแต่ก็ไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ เนื่องจากปี 1984-1990 คือยุคทองของบาเยิร์น     มิวนิค แต่ในปี1986 คลินส์มันน์ก็สามารถพาทีมคว้ารองแชมป์เดเอฟเบโพคาลได้ โดยในรอบชิงแพ้       บาเยิร์นมิวนิคไป 5-2 แต่อีก2ปีถัดมาในปี1988ถือเป็นปีที่คลินส์มันน์ประสบความสำเร็จอย่างมากใน     บุนเดสลีกา เพราะเจ้าตัวสามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดและได้คะแนนโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของเยอรมัน ในปี 1989 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้งนึงเมื่อเจ้าฉลามขาวตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งต่างแดนกับทีมอินเตอร์แห่งเซเรียอา อิตาลี จบสถิติกับVFB Stuttgartไปที่ 156 นัด ยิงไป 79 ประตู

    
3ทหารเสือดอยช์แห่งเยอรมัน
ในปี 1989 เจอร์เก้น คลินส์มันน์ได้เดินทางสู่ประเทศอิตาลีพร้อมกับเพื่อนร่วมชาติอย่างโลธ่าร์ มัทเธอุส และ อันเดรียส เบรห์เม่ ทั้ง3คนสามารถสร้างสรรค์ฟอร์มการเล่นระดับสุดยอด จนสามารถพาอินเตอร์คว้าแชมป์กัลโซ่ เซเรียอาได้ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายเข้ามา แต่ความสำเร็จในฐานะแชมป์กัลโซ่เซ เรียอานั้นก็เกิดขึ้นแค่ปีเดียว เพราะคู่แข่งร่วมเมืองอย่างเอซีมิลานได้เข้าสู่ยุค3ทหารเสือดัตซ์ ฟลายอิ้ง ดัตช์แมนอันเลื่องชื่อ แต่ถึงกระนั้น3ประสานจากเยอรมันก็ยังคงมีผลงานที่ยอดเยี่ยมพาอินเตอร์คว้าแชมป์ซูแปร์โกปาอิตาลี่ในปี 1989 และ แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีกในปี 1990-1991พ่วงด้วยผลงานทีมชาติที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ได้และในปีต่อมาเจอร์เก้น คลินมันส์ก็ได้ออกเดินทางอีกครั้งสู่ดินแดนน้ำหอมฝรั่งเศสซึ่งเป้าหมายของเค้าคือโมนาโก จบสถิติกับอินเตอร์ไปที่ 123 นัด 40 ประตู

ผิดหวังแต่ยังลุกขึ้นสู้
 การเดินทางมาค้าแข้งที่ฝรั่งเศสนั้นไม่ได้สวยหรูเหมือนสมัยที่เจอร์เก้น คลินส์มันน์เคยผ่านมา 2 ปีที่ลีกเอิงเป็น2ปีที่ผิดหวังที่เค้าไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์อะไรได้เลย สถิติในการยิงประตูก็น้อยลง หลังจากผิดหวังในลีกเอิงในปี 1994 เจอร์เก้น คลินส์มันน์ก็ถูกเรียกตัวติดทีมชาติเพื่อป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา ในวัย 30 ปี แต่ในฟุตบอลโลกครั้งนั้นเยอรมันก็ไปได้แค่รอบควอเตอร์ ไฟนอลเพราะพลาดท่าแพ้ให้กับบัลแกเรีย 2-1 แต่สำหรับเจอร์เก้น คลินส์มันน์แล้วฟุตบอลโลกครั้งนี้ถือเป็นการเรียกความมั่นใจของเค้ากลับมาด้วยผลงาน 5 ประตู ในปี1994หลังจบจากฟุตบอลโลกเจอร์เก้น คลินส์มันน์ก็ย้ายทีมอีกครั้งสู่ประเทศอังกฤษไปยังสนามไวท์ ฮาร์ทเลนของทีมทอตนัมฮอต สเปอร์ สิ้นสุดการค้าแข้งในดินแดนน้ำหอมไป 165 นัด 29 ประตู

สู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
 การมาค้าแข้งกับทีมสเปอร์นั้นถือว่าเป็นการกลับมาโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งนึงของกองหน้าจากเยอรมันก็ว่าได้ เพราะในปี 1995 นั้นเจอร์เก้น คลินส์มันน์ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปี ซึ่งเป็นนักเตะต่างชาติคนที่ 3 ที่ได้รางวัลนี้ในฟุตบอลลีกของอังกฤษ แต่เวลาของเค้ากับสเปอร์ช่างน้อยนักเพราะในปี 1995 เค้าก็ตัดสินใจย้ายกลับบ้านเกิดไปร่วมทีมบาเยิร์นมิวนิค แต่ถึงจะเป็นเวลาแค่1ปีเค้าแต่เค้าก็ได้ฝากผลงานไว้ที่สเปอร์ได้อย่างสุดยอดโดย 41 นัด 21 ประตู

สู่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 
  ในปี 1996 ฟุตบอลยูโรถูกจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ นับเป็นยูโรแห่งการเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่อย่างแท้จริง เพราะหลายๆทีมกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่เช่นซีเนอดีน ซีดานที่หลายคนคาดหวังให้มาแทนเอริค คันโตน่า 3 ประสานที่ยังโนเนมอยู่ของเช็กที่สามารถพาทีมเข้าชิงกับเยอรมันอย่าง พาเวล เนดเวด,วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์และแพทริก แบร์เกอร์ รวมถึงบรรดาสตาร์ดังแห่งยุคอย่างอลัน เชียร์เรอร์,คลาเรน ซีดอร์ฟ,ปีเตอร์ ชไมเคิล,ฮริสโต้ สตอยคอฟ,หลุยส์ ฟิโก้,ดาวอร์ ซูเคอร์และอีกหลายคน รวมถึงบรรดานักเตะเยอรมันอย่างเจอร์เก้น คลินส์มันน์ ตัวเก๋าวัย 32 ปี โอลิเวอร์ เบียโฮฟกองหน้าโนเนมในเวลานั้นที่ยิงไป 2 ประตูในนัดชิงและมัทธีอัส ซามเมอร์ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปี 1996และน่าจะเป็นลิเบโร่คนสุดท้ายแห่งวงการลูกหนีง และในครั้งนี้บรรดานักเตะทัพอินทรีเหล็กก็คว้าแชมป์ยุโรปไปครองเป็นสมัยที่3

ลาก่อนเจ้าฉลามขาว เจอร์เก้น คลินส์มันน์
หลังจากจบฟุตบอลยูโร 1996 เจอร์เก้น คลินส์มันน์ก็ย้ายออกจากบาเยิร์นไปซามโดเรีย ปี1997-1998 ย้ายกลับไปช่วยสเปอร์หนีตกชั้น และประกาศยุติอาชีพหลังจบฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศสในปี 1998 แต่ในปี 2003 เจอร์เก้น คลินส์มันน์ก็กลับมาลงสนามอีกครั้งกลับทีมOrange County Blue Star ในวัย 39 ปี และยังไว้ลาย ลง 8 นัด 5 ประตู และสิ้นสุดอาชีพค้าแข้งที่นั้น

รวมสถิติ ตลอดอาชีพการค้าแข้งเจอร์เก้น คลินส์มันน์ลงสนามไป 542 นัด 238 ประตู
ในนามทีมชาติ ลงสนาม 108 นัด 47 ประตู 



ความคิดเห็น